วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ดาวอังคาร


ดาวอังคาร

..ดาว อังคารเป็นดาวเคราะห์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ในบรรดาดาวเคราะห์บนฟ้าทั้งหมด เพราะเคยมีคนเชื่อว่า มีมนุษย์อยู่บนดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้ ดาวอังคารยังเป็นดาวเคราะห์ที่มีโอกาสเข้ามาใกล้โลกเกือบพอๆ กับดาวศุกร์ โดย
ระยะใกล้ที่สุดจะอยู่ภายใน 40 ล้านกิโลเมตร เมื่อใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่มีกำลังแยกภาพสูงสุด ส่องดาวอังคารขณะอยู่
ใกล้โลกที่สุด จะเห็นรายละเอียดได้ถึง 150 กิโลเมตร ซึ่งเทียบได้กับการเห็นริ้วรอยบนดวงจันทร์ด้วยตาเปล่าที่กำลังแยกภาพ ขนาดนี้จะไม่เห็นรายละเอียดของพื้นผิว เช่นไม่เห็นภูเขาหรือหุบเหว หรือหลุมบ่อของดาวอังคาร แต่จะเห็นโครงสร้างใหญ่ๆ
เช่นขั้วน้ำแข็งสีขาว หรือริ้วรอยสีคล้ำซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลของดาวอังคาร
...............สาเหตุที่มีผู้เชื่อว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่บนดาวอังคาร เนื่องจากนักดาราศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อ จิโอวานนี ชิอาพาเรลลี
รายงานเมื่อ พ . ศ . 2420 ว่าเขาได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ส่งพบร่องที่เป็นเส้นตรงจำนวนมากบนพื้นผิว และเรียกเป็น
ภาษาอิตาลีว่า คานาลี (canale) ซึ่งมีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษว่า channel ( ช่องหรือทาง ) แต่คนอังกฤษเอาไป
แปลว่า canal ( คลอง ) อันเป็นสิ่งซึ่งต้องขุดสร้างขึ้น ผู้ขุดสร้างคลองบนดาวอังคารจึงต้องเป็นมนุษย์ดาวอังคาร เพื่อนำน้ำ
จากขั้วมายังบริเวณศูนย์สูตรสำหรับการเพาะปลูก จุดนี้เองที่นำไปสู่การเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้เชื่อว่ามีมนุษย์
ดาวอังคาร ซึ่งจะเดินทางมาบุกโลก ผู้ที่สนับสนุกความคิดเรื่องมนุษย์ดาวอังคารสร้างคลองส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูก คือ
เปอร์ซิวัล โลเวลล์ นักดาราศาสตร์อเมริกันและเป็นสมาชิกของครอบครัวที่มั่งคั่งในรัฐแอริโซนา เขาได้ทำแผนที่แสดง
คลองต่างๆ บนดาวอังคาร แต่ต่อมามีนักดาราศาสตร์ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีกำลังแยกภาพที่ดีกว่า ตรวจไม่พบคลอง
บนดาวอังคาร แต่ชาวบ้านทั่วไปยังฝังใจเชื่ออยู่ จนกระทั่งถึงยุคอวกาศจึงปรากฏชัดว่าไม่มี คลองบนดาวอังคารแน่นอน
พื้นผิวดาวอังคารมีหลุมบ่อ หุบเหว ภูเขา และมีปล่องภูเขาไฟ มีร่องเหมือนเป็นทางน้ำไหลมาก่อน ดังจะได้กล่าวต่อไป
ในหัวข้อการสำรวจดาวอังคารโดยยานอวกาศ
...............ยานอวกาศลำแรกที่ประสบความสำเร็จในการผ่านใกล้ดาวอังคาร คือ ยานมารีเนอร์ 4 ของสหรัฐอเมริกาเมื่อ
วันที่ 22 กรกฎาคม พ . ศ . 2508 ภาพที่ถ่ายทอดกลับมาจำนวน 22 ภาพแสดงให้เห็นว่าพื้นผิวดาวอังคารมีหลุมและบ่อ
มากมาย ยานอวกาศมารีเนอร์อีกหลายลำต่อมา สามารถถ่ายภาพพื้นผิวรวมกันแล้วได้ครบทั่วทุกบริเวณ โดยเห็น
ภาพละเอียดถึง 1 กิโลเมตร ภาพถ่ายเหล่านี้ช่วยให้นักภูมิศาสตร์ทำแผนที่ของดาวอังคารได้ทั้งดวง บนพื้นผิวของดาวอังคารจึงพบการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทางธรณีวิทยา เช่น ปล่องภูเขาไฟ
หุบเหวกว้างและลึกร่องที่เหมือนกับร่องน้ำที่เคยเป็นทางน้ำไหลมาก่อน
.............ยานที่สำรวจดาวอังคารต่อจากยานมารีเนอร์ คือ ยานไวกิง 2 ลำ แต่ละลำประกอบด้วยยานลำแม่ที่เคลื่อนรอบดาวอังคาร
ในขณะที่ส่งยานลูกลงสัมผัสพื้นผิวดาวอังคาร ยานไวกิง 1 ลงที่ไครส์ พลาทิเนีย (Chryse Planitia) ซึ่งแปลว่า ที่ราบแห่งทองคำ
...............เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ . ศ . 2519 เป็นเวลา 7 ปีหลังจากที่ นีล อาร์มสตรอง เหยียบ
ดวงจันทร์ ต่อจากนั้นอีก 2 เดือน ยานไวกิ้ง 2 ก็ลงในที่ราบทางเหนือชือที่ราบยูโทเปีย(Utopia) ยานทั้งสองมีแขนกลยื่นออกไปตักดินบนดาวอังคารมาวิเคราะห์ภายในยาน เพื่อค้นหา
สิ่งมีชีวิตหรือซากของสิ่งมีชีวิตแต่การวิเคราะห์ไม่ยืนยันว่ามีหรือเคยมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารต่อ
จากยานไวกิ้งคือ ยานมาร์สพาธไฟเดอร์ ที่นำรถโซเจนเนอร์ไปด้วย ยานได้ลงบนพื้นผิว
ดาวอังคารเมื่อเดือนกรกฏาคม พ.ศ. 2540 ภาพที่น่าตื่นเต้นคือการติดตามรถคันเล็กๆ เคลื่อนที่
สำรวจก้อนหินใกล้ฐานซึ่ง ต่อมาได้รับชื่อว่า "ฐานเซแกน"
..............
...............ภาพ ก้อนหินที่เรียงในทิศทางเดียวกันชี้ให้ เห็นว่าบนดาวอังคารเคยมีน้ำไหลมาก่อน ล่าสุดยานมาร์สโกลบอล เซอร์เวเยอร์ซึ่งกำลังเคลื่อนรอบดาวอังคารได้ส่งภาพหุบเหวที่เป็น
ร่องลึกหรือที่เรียกว่า แคนยอนซึ่งคดเคี้ยวไปมาในอนาคตสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น มีโครงการที่จะส่งยานอวกาศไปเก็บดินจากดาวอังคารกลับมาวิเคราะห์ในห้อง ปฏิบัติการบนโลก
และอีกไม่นานมนุษย์จะเดินทางไปดาวอังคารเช่นเดียวกับการลงบนดวงจันทร์ เมื่อ พ . ศ . 2512
ข้อมูลจำเพาะของดาวอังคาร
  ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ : 227,936,640 ก.ม. 1.52366231 A.U.
  หมุนรอบตัวเอง : 1.02595675 วัน
  หมุนรอบดวงอาทิตย์ : 686.98 วัน
  เส้นผ่านศูนย์กลาง : 6,794 ก.ม. (0.5326 เท่าของโลก)
  ปริมาตร : 0.149 เท่าของโลก
  มวล : 6.4191 * 1023 ก.ก.
  ความหนาแน่น : 3,940 ก.ก./ ม. 3
  ความเร่งที่พื้นผิว : 371 ซ.ม./ วินาที 2
  ความเร็วเฉลี่ย : 24.1309 ก.ม ./ วินาที
  ความเร็วการผละหนี : 5.02 ก.ม./ วินาที
  ความรีของวงโคจร : 0.09341233
  ความเอียงระนาบวงโคจร : 1.85061 องศา
  ความเอียงของแกนหมุน : 25.19 องศา
  อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ย : 186 - 268 องศาเคลวิน
  ก๊าซในชั้นบรรยากาศ : Carbondioxide (CO2) 95%
Nitrogen (N2) 3 Nitrogen (N2) 3%
Argon (Ar) 1.6%

  ดาวบริวาร : 1. Phobos 2. Deimos
แหล่งข้อมูลอ้างอิง

[1] http://en.wikipedia.org/wiki/Mars
[2] http://th.wikipedia.org/wiki/ดาวอังคาร
[3] http://www.solarviews.com/eng/mars.htm
[4] http://www.doodaw.com/solar/mars.html
[5] http://sunflowercosmos.org/solar_system/solar_system_main/solar_system_mars_1.html
[6] http://sunflowercosmos.org/extra_solar/extra_solar_main/discover_planets.html
[7] Martin Rees, 'Universe', Dorling Kindersley Limited, 2007

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น