วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

โลก

โลก

...โลก หมุนรอบดวงอาทิตย์เป็นวงโคจรซึ่งใช้เวลา 365 1/4 วัน เพื่อให้ครบ 1 รอบ ปฏิทินแต่ละปีมี 365 วัน ซึ่งหมายความว่าจะมี 1/4 ของวันที่เหลือในแต่ละปี ซึ่งทุกๆปีสี่ปีจะมีวันพิเศษ คือจะมี 366 วัน กล่าวคือเดือนกุมภาพันธ์
จะมี 29 วัน แทนที่จะมี 28 วันเหมือนปกติ ตามที่เคปเลอร์ค้นพบวงโคจรของโลกไม่เป็นวงกลม ในเดือนธันวาคม
มันจะอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าเดือนมิถุนายน ซึ่งมันจะอยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์มากที่สุด โลกจะเอียงไปตามเส้นแกน
...............ในเดือนมิถุนายน ซีกโลกเหนือจะเอียงไปทางดวงอาทิตย์ดังนั้น ซีกโลกเหนือจะเป็นฤดูร้อนและซีกโลกใต้จะเป็นฤดูหนาว ในเดือน
ธันวาคมจะเอียงจากดวงอาทิตย์ ทำให้ซีกโลกเหนือเป็นฤดูหนาวและซีกโลกใต้
เป็นฤดูร้อน ในเดือนมีนาคมและกันยายนซีกโลกทั้งสองไม่เอียงไปยัง
ดวงอาทิตย์ กลางวันและกลางคืนจึงมีความยาวเท่ากัน ในเดือนมีนาคม ซีกโลก
เหนือจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ และซีกโลกใต้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ในเดือนกันยายน
สถานการณ์จะกลับกัน
...............ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ จะมีฤดูกาลเป็นของตนเองและระยะของการโคจร ความยาวของปีดาวเคราะห์เป็น
เวลาที่มันหมุนรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบ ถ้าคุณอยู่บนดาวพุธ ปีของคุณจะมีเพียง 88 วันของโลก บนดาวพูลโต ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่นอกสุดหนึ่งปีจะเท่ากับ 248 วันบนโลก
........................ข้อมูลเกี่ยวกับโลก

...............โลกมีอายุประมาณ 4,700 ปี โลกไม่ได้มีรูปร่างกลมโดยสิ้นเชิง เส้นรอบวงที่
เส้นศูนย์สูตรยาว40,077 กิโลเมตร (24,903 ไมล์)และที่ขั่วโลกยาว 40,009 กิโลเมตร
(24,861 ไมล์)
.........................ดวงจันทร

...............ดวงจันทร์เป็นบริวารของโลก โคจรรอบโลกทุกๆ 27 วัน 8 ชั่งโมง และขณะเดียวกันก็หมุนรอบแกนตัวเอง
ได้ครบหนึ่งรอบพอดีด้วย ทำให้เรามองเห็นดวงจันทร์ด้านเดียว ไม่ว่าจะมองจากส่วนไหนของโลก ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง มนุษย์เพิ่งจะได้เห็นภาพ เมื่อสามารถส่งยานอวกาศไปในอวกาศได้ บนพื้นผิวดวงจันทร์ร้อนมากในบริเวณที่ถูก
แสงอาทิตย์ และเย็นจัดในวริเวณเงามืด ที่พื้นผิวของดวงจันทร์มีปล่องหลุมมากมาย เป็นหมื่นๆหลุม ตั้งแต่หลุมเล็ก
ไปจนถึงหลุมใหญ่มีภูเขาไฟและทะเลทรายแห้งแล้ง
.........................วัฏจักรของดวงจันทร์

...............เราทราบแล้วว่า ถ้านับเดือนทางจันทรคติ แล้วดวงจันทร์จะโคจรรอบโลกหนึ่งรอบ กินเวลา 29 1/2 วัน ถ้าเรานับจุดเริ่มต้นของดวงจันทร์ที่วันเดือนดับ (New moon) เป็นช่วงที่ดวงจันทร์ อยู่เป็นเส้นตรงระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์
ทำให้ดวงจันทร์ทึบแสง คนบนโลกจึงมองไม่เห็นดวงจันทร์ แล้วก็เป็นวันข้างขึ้นทีละน้อย เราจะเห็นดวงจันทร์สว่างเป็นเสี้ยว
ทางขอบฟ้าตะวันตก และจะเห็นดวงจันทร์ขึ้นสูงจากขอบฟ้าทิศตะวันตก ไปทางทิศตะวันออก พร้อมกับมีเสี้ยวสว่างมากขึ้น พอถึงช่วงวันขึ้น 7-8 ค่ำ ดวงจันทร์จะสว่างครึ่งซีกอยู่ตรงกลางท้องฟ้าพอดี (Quarter) วันต่อมาจะเพิ่มเสี้ยวสว่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันขึ้น 14-15 ค่ำ ดวงจันทร์จะมาอยู่ตรงเส้น ระหว่างดวงอาทิตย์และโลก ทำให้ดวงจันทร์เกิดสว่างเต็มดวง
(Full moon) หลังจากนั้นดวงจันทร์กลายเป็นข้างแรม ดวงจันทร์จะขึ้นช้าไปเรื่อยๆ จนหายไปในท้องฟ้าจะเห็นเดือนดับ แล้วก็เริ่มต้นใหม่เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ การเกิดข้างขึ้นข้างแรม เนื่องจากดวงจันทร์โคจรรอบโลก 1 รอบ เท่ากับมัน
โคจรรอบตัวเอง 1 รอบพอดี ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ดังนั้นเราจึงเห็นดวงจันทร์เพียงซีกเดียวตลอดเวลา
ข้อมูลจำเพาะของโลก
ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ : 149,597,890 ก.ม. 1 A.U.
หมุนรอบตัวเอง : 0.99726968 วัน
หมุนรอบดวงอาทิตย์ : 0.99997862 ปี
เส้นผ่านศูนย์กลาง : 12,756.28 ก.ม.
มวล : 5.9742 ? 10^24 ก.ก.
ความหนาแน่น : 5515 ก.ก./ม 3
ความเร่งที่พื้นผิว : 980 ซ.ม./วินาที 2
ความเร็วเฉลี่ย : 29.7859 ก.ม./วินาที
ความเร็วการผละหนี : 11.18 ก.ม./วินาที
ความรีของวงโคจร : 0.01671022
ความเอียงระนาบวงโคจร : 0.00005 องศา
ความเอียงของแกนหมุน : 23.45 องศา
อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ย : 288 - 293 องศาเคลวิน
อุณหภูมิชั้นบรรยากาศ : 288 องศาเคลวิน
ก๊าซในชั้นบรรยากาศ : Nitrogen (N 2 ) 78%
Oxygen (O 2 ) 21%
Argon (Ar) 1%
ดาวบริวาร : 1. The Moon
แหล่งข้อมูลอ้างอิง

[1] http://en.wikipedia.org/wiki/Earth
[2] http://th.wikipedia.org/wiki/โลก
[3] http://www.solarviews.com/eng/earth.htm
[4] http://www.doodaw.com/solar/earth.html
[5] http://en.wikipedia.org/wiki/Earth's_atmosphere
[6] Martin Rees, 'Universe', Dorling Kindersley Limited, 2007

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น